ฉาว! เทศมนตรีสหรัฐฯ โพสต์ ภาพโป๊ แก้แค้น แฟนเก่า ถูกตั้งข้อหาเพียบ

ฉาว! เทศมนตรีสหรัฐฯ โพสต์ ภาพโป๊ แก้แค้น แฟนเก่า ถูกตั้งข้อหาเพียบ

นายกเทศมนตรีในประเทศสหรัฐอเมริกาถูกตั้งข้อหา 50 กระทง หลังโพสต์ ภาพโป๊ แก้แค้น แฟนเก่า พร้อมด้วยข้อความเหยียดชาติพันธุ์ เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน สำนักข่าว นิวยอร์กโพสต์ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมนาย แอนดรูว์ แบรดชอว์ ชายวัย 32 ปี และเป็น นายกเทศมนตรีของเมืองแคมบริท รัฐแมรีแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากที่เขาถูกกล่าวหาว่า เขาโพสต์ภาพเปลือยของแฟนเก่าลงบนเว็บไซต์ reddit โดยไม่ได้รับการยินยอมจากฝ่ายหญิง

โดยนอกจากรูปภาพแล้ว 

โพสต์ดังกล่าวยังเต็มไปด้วยข้อความเหยียดชาติพันธุ์และข้อความที่หยาบคาย ซึ่งผู้ก่อเหตุได้โพสต์ภาพด้วยบัญชี reddit หลายบัญชีและใช้ชื่อที่เปิดเผยถึงชื่อของเหยื่อและวันเกิดของเธอ อดีตแฟนสาวระบุว่าเธอพบภาพครั้งแรกในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และนาย แบรดชอว์ เป็นคนเดียวที่มีภาพชุดดังกล่าว เนื่องจากเธอเป็นคนส่งให้เขาเองในขณะที่พวกเขาคบเป็นแฟนกัน อย่างไรก็ตามในช่วงเธอที่พบรูปภาพดังกล่าวนั้นทั้งสองไม่ได้อยู่ในสถานะแฟนอีกแล้ว

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหานาย แบรดชอว์ กว่า 50 กระทง ซึ่งผู้ต้องหานั้นเป็นนายกเทศมนตรีที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของเมืองและเพิ่งเข้าได้รับตำแหน่งเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา

ตำรวจสหรัฐฯ เร่งสอบสวนหลัง นักร้องสาวฉี่ใส่แฟนคลับ กลางเวทีขณะแสดงคอนเสิร์ต หากผิดจริงอาจถูกปรับสามหมื่นบาท หรือ จำคุกหนึ่งปี เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน เว็บไซต์ เมทัลอิเจ็กชัน ได้ออกมารายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจในประเทศสหรัฐอเมริกาเตรียมเข้าสอบสวนหลังจากที่ โซเฟีย ยูริสต้า นักร้องนำวง บราส อเกนสต์ ที่ร่วมแสดงในเทศกาลดนตรี ร็อกวิล ที่จัดแสดงในรัฐฟลอริดา ฉี่ใส่แฟนๆ จนกลายกระแสฮือฮาก่อนหน้านี้ โดยก่อนหน้านี้ ยูริสต้า ได้บ่นระหว่างการแสดงว่าเธอจำเป็นต้องใช้ห้องน้ำพร้อมที่ถามว่า “มีใครอยากให้ฉี่ใส่ไหม?” ก่อนที่จะมีชายคนหนึ่งอาสารับปัสสาวะของเธอ ท่ามกลางแฟนเพลงจำนวนมากที่ร่วมชมการแสดงครั้งนี้

ตามกฎหมายในรัฐฟลอริดานั้นการเปิดเผยอวัยวะเพศต่อสาธารณะชนถือเป็นเรื่องผิดกฏหมาย ซึ่งหากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่ามีความผิดจริง ยูริสต้า อาจจะถูกปรับเป็นเงิน 3 หมื่นบาท หรือถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลาหนึ่งปี ด้านวงบราส อเกนสต์ ได้ออกมาขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมระบุว่า โซเฟีย ตื่นเต้นและลืมตัว ซึ่งทางวงไม่ได้คาดคิดกับเหตุการณ์นี้ พร้อมสัญญาว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก

แอปส่งอาหารมาเลเซีย เกิดไอเดียสุดบรรเจิดในการกระตุ้นยอดขาย ด้วยการให้ หนุ่มหล่อ กล้ามโต ส่งอาหาร ถึงบ้าน หวังเอาใจคนชอบหนุ่มกล้ามใหญ่ เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน สำนักข่าว เวิล์ด ออฟ บัฟ ได้เผยแพร่ บริการส่งอาหารจากแอปฯ เมียวโต หรือ MYOTO ซึ่งเป็นบริการส่งอาหารในประเทศมาเลเซียที่ผุดไอเดียบรรเจิดในการกระตุ้นยอดขาย ด้วยการให้หนุ่มหล่อกล้ามโตเป็นคนสั่งอาหารให้ถึงบ้าน

ซึ่งทางแอปฯระบุว่า “อยากได้หนุ่มกล้ามใหญ่ส่งอาหารให้ไหม? หนุ่มหล่อสุดเซ็กซี่จะเป็นคนส่งอาหารถึงบ้านคุณเอ” พร้อมมอบส่วนลดมูลค่ากว่า 100 บาท ให้กับผู้ใช้บริการใหม่ อย่างไรก็ตามในขณะนี้ทางเมียวโตยังไม่ได้เปิดให้บริการในทุกพื้นของประเทศมาเลซีย โดยขณะนี้พวกเขาเปิดให้บริการเพียงแค่ รัฐซาราวัก, รัฐปีนัง และรัฐมะละกา

เมียนมา ปล่อยตัว นักข่าวอเมริกัน กลับบ้านแล้ว หลังถูกตั้งข้อหาก่อการร้าย

กองทัพ เมียนมา ปล่อยตัว แดนี เฟนสเตอร์ นักข่าวอเมริกัน ที่ถูกจับกุมพร้อมตั้งข้อหาก่อการร้ายและปลุกระดม พร้อมบินเดินทางกลับสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน สำนักข่าว BBC รายงานว่า กองทัพของรัฐบาลเมียนมาได้ระบุว่าพวกเขาได้นิรโทษกรรมพร้อมปล่อยตัวนาย แดนี เฟนสเตอร์ นักข่าวชาวอเมริกันที่ถูกจำคุกเป็นระยะเวลากว่า 176 วัน พร้อมถูกตั้งข้อหา ข้อหาก่อการร้ายและปลุกระดมมวลชน และหากศาลตัดสินให้เขามีความผิดจริง เขาอาจจะถูกตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต ได้

โดยการปล่อยตัวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ บิล ริชาร์ดสัน อดีตทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ ได้เข้าช่วยเจรจากับทางกองทัพเมียนมา และได้เผชิญหน้ากับ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย นายกรัฐมนตรีที่ก่อรัฐประหารยึดอำนาจอองซานซูจี ตั้งแต่ช่วงเดือน กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทั้งนี้ทางกองทัพเมียนมาระบุว่าการปล่อยตัวครั้งนี้เป็นเหตุด้านสิทธิมนุษยชน

ในขณะนี้นาย เฟนสเตอร์ ได้ขึ้นเครื่องเดินทางออกจากประเทศเมียนมาและเดินทางกลับประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นาย เฟนสเตอร์ วัย 37 ปี เป็นบรรณาธิการบริหารของเว็บไซต์ข่าวออนไลน์ ‘ฟรอนเทียร์ เมียนมา’ เว็บไซต์ข่าวภาษาอังกฤษ นอกจากนี้นักข่าวชาวมะกันยังเคยทำงานกับเว็บไซต์ เมียนมา นาว ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่วิพากษ์วิจารณ์กองทัพแบบโจ่งแจ้ง

การชุมนุมต่อต้านกองทัพเมียนมาเริ่มต้นขึ้น หลังจากที่ พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ โดยให้เหตุผลว่านาง อองซานซูจี โกงการเลือกตั้งเมื่อช่วงเดือน พฤศจิกายน 2563 และนำไปสู่เหตุการชุมนุมประท้วงกองทัพอยู่หลายครั้ง ซึ่งทางกองทัพได้ใช้ความรุนแรงปราบปราบผู้ชุมนุม จนเป็นเหตุใหม้ผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 1,200 ศพ และมีผู้ถูกจับกุมกว่า 6,000 คน ซึ่งผู้ถูกจับกุมมีผู้สื่อข่าวนับร้อยชีวิตที่ถูกจับกุม แม้ว่าจะนักข่าวส่วนใหญ่จะได้รับการปล่อยตัวแล้ว แต่ยังมีนักข่าวราวๆ 31 คนที่ยังอยู่ภายใต้การคุมขัง

กระทั่งเกิดเรื่อง ลูกค้าจึงโทรมา แล้วตนจึงไปหาพร้อมกับอธิบายให้ตำรวจฟัง ว่าที่ไปที่มาเป็นยังไง ซึ่งตำรวจได้ถามกับตนว่า “คุณรู้ไหมว่าใส่ป้ายทะเบียนปลอมให้ลูกค้า ลูกค้าจะต้องติดคุกนะ เป็นคดีอาญา” ตนจึงได้ได้ตอบกลับไปว่า “ไม่ต้องมาขู่ลูกค้าผมหรอก คุยกับผมดีๆ ได้ จะเอายังไง ค่าปรับเดี๋ยวผมจ่ายเอง”

เครดิต : รีวิวซีรี่ย์เกาหลี | ลายสัก | รีวิวร้านอาหาร | โทรศัพท์มือถือ ราคาถูก | เรื่องย่อหนัง