โปรตุเกส ผ่าน กฎหมาย สั่ง นายจ้างห้ามติดต่อลูกน้อง นอกเวลางาน

โปรตุเกส ผ่าน กฎหมาย สั่ง นายจ้างห้ามติดต่อลูกน้อง นอกเวลางาน

โปรตุเกส ออก กฏหมาย ฉบับใหม่สั่งห้าม นายจ้าง ติดต่องานลูกน้องนอกเวลางาน และต้องเคารพความเป็นส่วนตัว ฝ่าฝืนโดนปรับเงิน เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน สำนักข่าว CNN รายงานว่า ทางประเทศโปรตุเกส ได้ออกกฏหมายฉบับใหม่ที่ระบุว่า ห้ามผู้ว่าจ้างติดต่อลูกจ้างนอกเวลางาน ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อด้วยโทรศัพท์มือถือ, ข้อความ หรือ อีเมล์

โดยผู้ว่าจ้างต้องเคารพความเป็นส่วนตัวของพนักงาน 

ซึ่งรวมถึงช่วงเวลาพักผ่อนและช่วงที่พนักงานอาศัยอยู่กับครอบครัว พร้อมระบุว่าผู้ใดฝ่าฝืนจะต้องเจอโทษร้ายแรง และ อาจถูกปรับเงินได้ มาตราการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายฉบับใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานจากที่บ้าน โดยพนักงานสามารถเลือกจะไม่ทำงานที่บ้าน แต่หากพนักงานมีความประสงค์ที่จะทำงานจากบ้าน พวกเขาก็สามารถร้องขอได้เช่นกัน หากงานของเขาสามารถปฏิบัติจากบ้านของตนเองได้ พร้อมสั่งให้ทางบริษัทเยียวยาค่าใช้จ่ายหากค่าไฟฟ้า หรือ ค่าก๊าซ เพิ่มสูงขึ้น

ทั้งนี้กฎหมายฉบับดังกล่าวมีความคล้ายคลึงกับกฎหมายในประเทศฝรั่งเศสที่ระบุว่าพนักงานมีสิทธิ์ที่จะไม่ตอบอีเมลล์งานได้หากอยู่นอกเวลาทำงาน

กลายเป็นเหตุฉาวอีกครั้ง หลังจากที่หนุ่มมะกันลืมปิดกล้องและ แก้ผ้า เดินรอบบ้านในระหว่างประชุม วิดีโอคอล เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน สำนักข่าว เดลี่สตาร์ รายงานเหตุประหลาดที่เกิดขึ้นในระหว่างการประชุม วิดีโอคอลของของคณะกรรมการหอการค้าเมืองไมแอมี บีช ในรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ผ่านแอปฯ ซูม  ซึ่งการประชุมครั้งนี้ได้รับการถ่ายทอดผ่านเฟซบุ๊กไปยังสาธารณะชน อีกด้วย

ในระหว่างการประชุมนั้น ชายคนหนึ่งก็ลุกขึ้นมาถอดผ้าคลุมออก และเดินแก้ผ้าล่อนจ่อน โดยไม่รู้ว่ากล้องยังเปิดอยู่ และเขาได้กลับมานั่งประชุมโดยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตามผู้เข้าร่วมประชุมคนอื่นไม่ได้แสดงท่าทีอะไรต่อเหตุการณ์สุดพิลึกในครั้งนี้

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์ประหลาดในระหว่างประชุมด้วยระบบวิดีโอคอล อย่างเช่นในกรณีของทนายเปรูที่เริ่มบรรเลงเพลงรักกับหญิงสาวปริศนา ในระหว่างการไต่สวนออนไลน์ หรือ ทนายความในรัฐเท็กซัส ที่ลืมปิดฟิลเตอร์แมวในระหว่างการไต่สวน

แม่บ้านลมแทบจับ หลังจากที่เปิดห้องโรงแรมที่เพิ่งใช้เป็นสถานที่ จัดปาร์ตี้สละโสด พบสภาพเละ เสียเวลาทำความสะอาดนานหลาย ชม. เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน เว็บไซต์ เวิลด์ ออฟ บัฟ รายงานว่า แม่บ้านแทบจะเป็นลมหลังจากที่เธอได้รับหน้าที่ให้ทำความสะอาดห้องหนึ่ง ซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงสละโสด เพื่อเฉลิมฉลองคืนวันแต่งงานของหญิงคนหนึ่ง

โดยจากคลิปจะเห็นได้ว่าสภาพห้องรกตั้งแต่ทางเข้า ทั้งพื้นที่เต็มไปด้วยกระดาษสี ริบบิ้น และลูกโป่ง รวมถึงลูกโป่งที่ติดอยู่บนม่านว่า “เจ้าสาว” ซึ่งจากสภาพที่สกปรกทำให้ เจ้าหน้าที่รักษาความสะอาดต้องใช้เวลานานกว่าที่จะเก็บกวาดจนหมด และทำให้ลูกค้าที่ใช้บริการห้องนี้ต่อได้เข้าห้องล่าช้า

หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ออกไปก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก โดยชาวเน็ตหลายคนระบุว่า ทุกคนจะควรรักษาความสะอาดก่อนออกจากห้อง และไม่ใช่หน้าที่ของแม่บ้านเพียงอย่างเดียว

อดีต ‘เจ้าหญิงมาโกะ’ เช่าอพาร์ทเม้นท์กับสามีในนิวยอร์ก หลังสละฐานันดรฯ

อดีต ‘เจ้าหญิงมาโกะ’ และสามีเช่าอพาร์ทเม้นท์ในนิวยอร์ก เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ต่างประเทศ หลังสละฐานันดรศักดิ์ตามกฎของญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน สำนักข่าว BBC รายงานว่านาง มาโกะ โคมุโระ หรือ อดีตเจ้าหญิงมาโกะ ได้เดินทางถีงประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมกับสามีแล้ว หลังจากที่ อดีตเจ้าหญิงมาโกะ สละฐานันดรศักดิ์ราชวงศ์ญี่ปุ่น หลังจากที่เธอแต่งงานกับนาย เคย์ โคมุโระ แฟนหนุ่ม ในช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

โดยทั้งคู่จะเช่าอพาร์ทเม้นท์ขนาดหนึ่งห้องนอนในนครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ใกล้กับสำนักงานกฎหมายสถานที่ทำงานของสามีเธอ เส้นทางการแต่งงานของทั้งสองเต็มไปด้วยอุปสรรคมากมาย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นาย โคมุโระตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์จากปัญหาทางการเงินของมารดา ซึ่งมีประเด็นติดค้างหนี้ราวล้านบาท กับอดีตคู่หมั้น โดยมีการอ้างว่าเงินจำนวนนั้นถูกใช้เป็นค่าเล่าเรียนของนายโคมุโระ

ซึ่งฝ่ายชายได้มีการออกแถลงการณ์ชี้แจงไปแล้วเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา และยืนยันว่าต้องการแต่งงานกับเจ้าหญิงมาโกะเช่นเดิม ซึ่งจากประเด็นนี้ทำให้พิธีวิวาห์ถูกเลื่อนออกไปนานสองปี

นอกจากนี้อดีตเจ้าหญิงปฏิเสธเงินอุดหนุนการแต่งงานสำหรับเชื้อพระวงศ์หญิงราว 44 ล้านบาท และปฏิเสธที่จะจัดงานพิธีวิวาห์ตามราชประเพณี ซึ่งถือเป็นสมาชิกราชวงศ์พระองค์แรกนับตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่สองที่ปฏิเสธการเข้าพิธีวิวาห์ตามราชประเพณี

ชาย หญิงอินโดถูกเฆี่ยน หลังจากมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน ผิดกฎชารีอะห์ ซึ่งเป็นกฎที่อ้างอิงตามคำสอนของคัมภีร์อัลกุรอ่าน เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน สำนักข่าว เดลี่เมลล์ รายงานว่า ทางการอาเจะห์ ประเทศอินโดนีเซีย ได้ลงโทษชายหญิงคู่หนึ่งด้วยการเฆี่ยนถึง 17 ครั้ง เพื่อเป็นการลงโทษหลังจากที่ทั้งสองมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน ซึ่งถือเป็นการละเมิด กฎชารีอะห์ซึ่งอิงกับคำสอนที่เคร่งครัดตามคัมภีร์อัลกุรอ่าน

เครดิต : รีวิวซีรี่ย์เกาหลี | ลายสัก | รีวิวร้านอาหาร | โทรศัพท์มือถือ ราคาถูก | เรื่องย่อหนัง